วัฒนธรรมและประเพณี ของชาวไทย
วัฒนธรรมและประเพณี ของชาวไทย
ศิลปกรรม
ศิลปกรรมไทยเป็นศิลปะที่มีความประณีตสวยงาม แสดงออกถึงความเป็นไทยที่มีความอ่อนโยน และสร้างสรรค์สืบต่อกันมาตั้งแต่อดีต จนได้ศิลปะประจำชาติที่มีลักษณะและรูปแบบเฉพาะ ส่วนใหญ่จะบอกเล่าเรื่องราว สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่แบบไทยตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน สะท้อนให้เห็นความเชื่อทางพระพุทธศาสนา สวยงามอ่อนช้อย และมีเรื่องราวกึ่งลึกกลับมหัศจรรย์
จิตรกรรม
นิยมเขียนบนผนังภายในอาคารที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาและบุคคลชั้นสูง เช่น โบสถ์ วิหาร พระที่นั่ง วัง เนื้อหาที่ถ่ายทอดมักเป็นเรื่องพุทธประวัติ ทศชาติชาดก ไตรภูมิ วรรณคดีและชีวิตไทย พงศาวดารต่างๆ
นอกจากนี้เอกลักษณ์ศิลปกรรมแบบไทยที่มีความอ่อนช้อยสวยงามก็ยังปรากฏให้เห็นในงานศิลปกรรมแขนงอื่น อย่างเช่นประติมากรรมและสถาปัตยกรรมไทยด้วย
ลายไทย เป็นส่วนประกอบของภาพเขียนไทย ใช้ตกแต่งอาคาร สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เครื่องประดับ ฯลฯ แต่ละลวดลายจะมีชื่อเรียกต่างๆ กัน ซึ่งมักเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เช่น ลายกระหนก ลายกระจัง ลายเครือเถา เป็นต้น
ลักษณะบ้านเรือน ของคนไทย
ในสมัยโบราณ บ้านเรือนของคนไทยมีลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง มีหลังคาแหลมสูงชัน มีนอกชาน รูปทรงมีระเบียบ ไม่ซับซ้อน และนิยมสร้างบ้านริมแม่น้ำลำคลอง
สาเหตุที่บ้านไทยนิยมปลูก ใต้ถุนสูง เพราะช่วยลมผ่านสะดวก ปลอดภัยจากสัตว์ร้ายในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันน้ำท่วมถึงตัวบ้านในฤดูฝนอีกด้วย
ประเพณีไทยได้รับอิทธิพลจากความเชื่อ ความผูกพันของผู้คนกับพุทะศาสนา และการดำรงชีวิตที่ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและธรรมชาติ
ประเพณีไทยที่สำคัญแยกเป็นประเพณีเกี่ยวกับชีวิตและประเพณีเกี่ยวกับเทศกาล
ในสมัยก่อน ชายไทยที่มีอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์จะต้องเข้าพิธีอุกสมบท (อุปสมบท หมายถึง การบวชเป็นภิกษุ) เพื่อศึกษาพระธรรมคำสอน และนำมาใช้ในการครองชีวิตต่อไปในภายภาคหน้าอย่างมีสติและสงบสุขร่มเย็น คนไทยมีความเชื่อว่า การที่บุตรชายได้บวชจะทำให้บิดามารดาได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ และถือเป็นการทดแทนพระคุณบิดามารดาด้วย
เมื่อหญิงชายตกลงใช้ชีวิตคู่กันแล้ว ก็จะมีธรรมเนียมในการสู่ขอเพื่อแต่งงาน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจะกำหนดสินสอดทองหมั้น แล้วจึงหาฤกษ์ยามสำหรับจัดพิธี เมื่อได้ฤกษ์ที่เป็นมงคลแล้ว ฝ่ายชายจะยกขบวนแห่ขันหมากไปที่บ้านฝ่ายหญิง จากนั้นจึงร่วมกันทำบุญตักบาตร รดน้ำสังข์และฉลองพิธีมงคลสมรส
ประเพณีสงกรานต์ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย ตรงกับวันที่ 13 – 15เมษายนของทุกปี เมื่อถึงวันสงกรานต์ คนไทยมักจะทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ขนทรายเข้าวัด และเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและคลายร้อน นอกจากประเทศไทยแล้ว ประเทศลาว กัมพูชา พม่า ก็มีประเพณีสงกรานต์ด้วยเช่นเดียวกัน
วันลอยกระทงตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือราวๆ เดือน พฤศจิกายนของทุกปี มีขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณพระแม่คงคาหรือเทวีแห่งน้ำ อีกทั้งเป็นการแสดงความคารวะขออภัยที่ได้ลงอาบหรือปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำในวันลอยกระทง คนไทยจะนำวัสดุธรรมชาติซึ่งหาได้ง่ายๆ เช่น หยวกกล้วย ใบตอง ดอกไม้ มาประดิษฐ์เป็นกระทงรูปร่างคล้ายดอกบัวเพื่อนำไปลอยในแม่น้ำ สมัยโบราณมีการละเล่นรื่นเริงสนุกสนาน เช่น การละเล่นพื้นเมือง การเล่นเพลงเรือ รำวง ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นการจัดงานรื่นเริงตามวัดวาอารามและตามสถานที่ต่างๆ แทน